หนังสือบริคณห์สนธิ คืออะไร

หนังสือบริคณห์สนธิ คืออะไร


ปัจจุบันนี้ผู้คนจำนวนมากเลือกหันหลังให้กับการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือมนุษย์ออฟฟิศแล้วเปลี่ยนมาทำธุรกิจ
จดทะเบียนบริษัทเป็นของตัวเองเพราะต้องการเป็นนายตัวเองและอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเป็นเจ้าของธุรกิจ จึงจะเห็นว่าเจ้าของธุรกิจหลายคนไม่ได้เป็นคนที่มีความรู้พื้นฐานในการทำธุรกิจตั้งแต่แรก แต่หันมาเริ่มต้นตั้งใจและให้ความสนใจพร้อมกับมุ่งมั่นในการหาความรู้เพื่อสร้างธุรกิจของตนเองจนเรียกได้ว่าวันนี้มีธุรกิจ Start up มากมายที่มีแนวโน้มจะก้าวทันรายใหญ่ อย่างไรก็ตามในการทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งไม่เพียงอาศัยความรู้หรือวางแผนบริหารจัดการองค์กร วางแผนการโฆษณาหรือสร้างแบรนด์เพื่อแจ้งเกิดให้กับบริษัทหรือเพื่อเพิ่มรายได้ผลกำไรเท่านั้น ยังมีเรื่องสำคัญอย่างการจดทะเบียนธุรกิจและอีกเรื่องหนึ่งที่คนทำธุรกิจไม่สามารถมองข้ามไปได้เพราะนับว่าเป็นผลต่อการทำธุรกิจในระยะยาว กล่าวคือต้องรู้เพื่อไม่ให้พลาดและเป็นการทำตามกฎหมายที่ได้กำหนดนั่นคือการยื่นหนังสือบริคณห์สนธิ เอกสารสำคัญที่แสดงให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งบริษัทหรือธุรกิจนั้น ๆ ทั้งนี้ยังถือว่าเป็นการสร้างความไว้วางใจให้กับคู่ค้าหรือสร้างความน่าเชื่อถือได้อีกระดับ มาดูกันว่า“หนังสือบริคณห์สนธิ”คืออะไรมาทำความเข้าใจง่าย ๆ ในบทความนี้กันได้เลย

หนังสือบริคณห์สนธิ คืออะไร

หนังสือบริคณห์สนธิ คือตราสารที่ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทได้ตกลงร่วมกันจัดทำขึ้น เอกสารนี้มีไว้เพื่อแสดงให้ทราบถึงจุดประสงค์ในการก่อตั้งบริษัท ว่าจัดตั้งขึ้นมาด้วยเหตุผลใด โดยมีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทที่ก่อตั้ง เช่น ชื่อบริษัท ผู้ก่อตั้ง ที่อยู่ของบริษัท รวมถึงทุนจดทะเบียนบริษัทด้วย ทั้งนี้เพื่อแสดงต่อรัฐ

หนังสือบริคณห์สนธิ สำคัญอย่างไร

เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจหรือการเปิดบริษัทเป็นที่ทราบกันดีกว่าเพื่อสร้างความไว้วางใจ รวมถึงเป็นการยกระดับให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือจะต้องมีการจดทะเบียนนิติบุคคล เช่นเดียวกับการยื่นหนังสือบริคณห์สนธินับว่าสำคัญไม่แพ้กันโดยสรุปความสำคัญได้ ดังนี้

  • หนังสือบริคณห์สนธิ เป็นเอกสารที่แสดงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งบริษัท
  • เป็นเอกสารสำคัญที่มีความสำคัญในขั้นตอนของการจดทะเบียนบริษัทแบบธรรมดารวมถึงการจดผ่านระบบออนไลน์หรือกล่าวโดยง่ายคือเมื่อจดทะเบียนบริษัทแล้วขั้นตอนต่อมาคือจะต้องยื่นหนังสือบริคณห์สนธิ
  • หนังสือบริคณห์สนธิเป็นเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันว่าคุณได้จดทะเบียนบริษัทอย่างสมบูรณ์แล้ว
ด้วยความสำคัญนี้หากว่าคุณอยากเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนของหนังสือบริคณห์สนธิ ตัวเอกสารดังกล่าวของบริษัทชื่อดังถือว่าทำให้คุณมองเห็นถึงความสำคัญของหนังสือฉบับนี้ได้ชัด ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตได้เพียงใช้คำค้นหาว่าหนังสือบริคณห์สนธิต่อด้วยชื่อบริษัทที่คุณอยากทราบรายละเอียด เช่น หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) คุณจะพบรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งบริษัทดังกล่าว ไล่เลียงเป็นข้อ ๆ เช่น ชื่อบริษัท วัตถุประสงค์ของการก่อตั้ง รายละเอียดผู้ถือหุ้น ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทพร้อมทั้งให้คู่ค้าได้ทำความรู้จักถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งธุรกิจ เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของหนังสือบริคณห์สนธิจากบางบริษัทเท่านั้นหากอยากทราบหรือเก็บข้อมูลเกี่ยวกับตัวอย่างของเอกสารสำคัญของบริษัทขึ้นสามารถค้นหาในอินเทอร์เน็ตได้ตามคำแนะนำข้างต้น เพราะเอกสารดังกล่าวจะปรากฏบนหน้าเว็บเปรียบเสมือนฐานข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนั้น ๆ

สามารถอ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ ที่นี่ คลิ๊ก!



ขอบคุณบทความจาก : StationAccount
 520
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อใดที่มีการทางสัญญาทางธุรกิจต่างๆเช่น สัญญาเช่า สัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน สัญญาจ้างทาของ สัญญากู้ยืมเงิน เป็นต้น กฎหมายกำหนดให้เสียค่าอากรแสตมป์โดยเป็นอากรที่เรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรประเภทหนึ่ง จัดเก็บจากการำตราสารต่างๆ
นักลงทุนควรที่ความสำคัญกับการทำความเข้าใจในงบการเงินของกิจการ โดยนักลงทุนจะต้องทราบถึงความสำคัญของงบการเงิน ว่ามีความสำคัญอย่างไร เพราะข้อมูลในงบการเงินของแต่ละกิจการนั้น จะสามารถบ่งชี้ให้เราทราบถึงโอกาสในการลงทุนโดยดูจากข้อมูลภายในงบการเงินนั้นๆ งบการเงินของบริษัท ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนต้องการที่จะกล่าวถึง สาระสำคัญของงบการเงินที่นักลงทุนควรที่จะต้องพิจารณา โดยมีด้วยกันอยู่ 2 รายงาน และ 3 งบ ดังนี้
ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับการรับรู้รายได้สำหรับมาตรฐานการบัญชี ตามที่สภาวิชาชีพบัญชีได้ออกประกาศสภาวิชาชีพบัญชีที่ 6/2561 เรื่อง มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 15 เรื่อง รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งมีการบังคับใช้มาระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่ต้นปี 2562 ที่ผ่านมา
เงินสดย่อยกับเงินกู้ยืมกรรมการมีความคล้ายกันตรงที่เป็นเงินของกิจการที่คนในกิจการต้องการนำเงินไปใช้จ่ายต่างๆ เหมือนกันทั้งคู่ แต่หากกิจการเกิดมีบัญชีเงินกู้ยืมกรรมการขึ้นมาจะไม่เป็นผลดีต่อกิจการ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แล้วคนที่เพิ่งเริ่มต้นกิจการใหม่ๆ จะหลีกเลี่ยงอย่างไรได้บ้าง ในบทความนี้จะขอเปรียบเทียบหน้าที่ของเงินทางบัญชีทั้งสองแบบนี้ว่าต่างกันอย่างไร
ในช่วงนี้ (มกราคม-มีนาคม) ของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนที่มีเงินได้ต้องยื่นเสียภาษี สำหรับผู้ที่เริ่มทำงานใหม่ ๆ อาจมีข้อสงสัยว่า ภาษีคำนวณอย่างไร แล้วเมื่อไรที่เราจะต้องเริ่มเสียภาษี มาดูกันค่ะ

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์