ต้นทุนแฝง (Hidden cost) ถือเป็นภัยเงียบของการทำธุรกิจเลยก็ว่าได้ หลายบริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือมีแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับต้นทุนแฝงที่จริงจังมากพอ รู้ตัวอีกทีก็ขาดทุนติดต่อกันหลายเดือนทีเดียว ในบทความนี้จะพาผู้อ่านทุกท่าน ไปทำความรู้จักเกี่ยวกับต้นทุนแฝงกันให้มากขึ้นค่ะ
ต้นทุนแฝง (Hidden cost) คือ ค่าใช้จ่ายประเภทหนึ่ง เป็นรายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องจ่ายไปแม้เป็นมูลค่าที่ไม่มีนัยยะสำคัญแต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ และเมื่อมีต้นทุนแฝงมากๆ แต่ไม่ได้รับความสนใจหรือการบริหารจัดการที่เพียงพอ อาจกลายเป็นรายจ่ายหลักที่ก่อให้เกิดการขาดทุนของธุรกิจได้เลย
ต้นทุนแฝง หรือ Hidden cost/ Implicit cost เป็นต้นทุนที่มักจะถูกมองข้าม โดยสามารถเป็นได้ทั้งต้นทุนที่จับต้องได้เป็นตัวเอง เช่น ค่าน้ำนัม ค่าไฟ ค่าของสมนาคุณลูกค้า หรืออาจเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถจับต้องได้ เช่น ค่าเสียโอกาส เวลา
การมีต้นทุนแฝงมากเกินไป สร้างปัญหาอะไรบ้างความน่ากลัวและอันตรายของต้นทุนแฝง คือ การถูกมองข้ามไป หรือแย่ที่สุดคือผู้บริหารอาจไม่รับรู้ถึงต้นทุน ค่าใช้จ่ายนี้เลยก็ได้ และเมื่อต้นทุนแฝงมีมากขึ้นก็ส่งผลเสียต่างๆ มากมายต่อการดำเนินกิจการ อาทิเช่น
ต้นทุนแฝงในรูปแบบของเวลา มักก่อโทษให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ไม่เต็มประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น การรอวัตถุดิบ ทำให้พนักงานว่างงานเพราะต้องรอวัตถุดิบมาถึงก่อนจึงสามารถดำเนินงานต่อได้ หรือการรอเซ็นต์อนุมัติเอกสาร การรอการตัดสินใจจากผู้มีอำนาจในการแก้ไขปัญหา
2.ต้นทุนแฝงในรูปของค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
ต้นทุนแฝงจากค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เช่น ค่ากระดาษหรือค่าหมึกปริ้นท์จากการพิมพ์เอกสารผิดบ่อยๆ ค่าคลิปหนีบกระดาษ ค่าแก้วกระดาษดื่มน้ำสำหรับพนักงาน
3.ต้นทุนแฝงจากการติดต่อสื่อสารต้นทุนแฝงที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสาร เช่น ค่าเดินทางไปพบลูกค้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าห้องประชุมหรือห้องสัมนานอกสถานที่
4.ต้นทุนแฝงในรูปของสินค้าคงเหลือ หรือสินค้าคงคลังต้นทุนแฝงที่มาในรูปแบบของสินค้าคงเหลือ มักเกิดขึ้นจากปัญหาการบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่ไม่ดีพอ ทำให้มีคิดค้าค้างสต็อกจำนวนมากซึ่งก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา
วางแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบริหารงานต่างๆ ให้รัดกุม โดยกำหนดเพดานการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยการวางแผนงบประมาณรายจ่ายอาจมีการปรับลดได้ในแต่ละเดือนแต่ต้องมีการกำหนดงบประมาณไว้ล่วงหน้า เพื่อควบคุมรายจ่ายแฝงที่ไม่จำเป็นไม่ให้เกิดขึ้น
2.วางระบบให้รัดกุมด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยวางระบบในการตรวจสอบ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นควรตรวจสอบได้ มีความโปร่งใส โดยอาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการตรวจสอบมาตรฐาน
3.ลดต้นทุนด้วยการจัดระเบียบสินค้าคงคลังจัดระเบียบสินค้าคงคลัง ซึ่งรวมไปถึงการวางแผนสั่งซื้อวัตถุดิบต่างๆ การผลิต ตลอดจนการมีสินค้าค้างสต็อก ต้องมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับปริมาณความต้องการในแต่ละช่วงเวลา สำหรับธุรกิจที่เริ่มต้นใหม่ๆ อาจยังพบปัญหาในการวางแผนด้านการสต็อกสินค้าบ้าง แต่เมื่อดำเนินการไปสักระยะจะสามารถประเมินตัวเลขของวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ ปริมาณการผลิต ตลอดจนการสต็อกสินค้าในช่วงเวลาที่แตกต่างกันได้
4.มีการตรวจสอบและประเมินประสิทธิภาพในการทำงานอยู่เสมอประเมินผลของการวางแผนบริหารต้นทุนแฝงในทุกๆ เดือน เพื่อที่จะได้รู้ว่าแผนที่วางไว้สามารถใช้ได้จริงและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของบริษัทได้จริงๆ ลดต้นทุนแฝง ในขณะที่ไม่ได้ลดรายได้ ทำให้บริษัทมีกำไรจากการบริหารงานมากขึ้น ต้นทุนแฝง หรือ Hidden cost ส่วนมากไม่ได้รับการจัดการที่จริงจัง เพราะอาจมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่มีนัยสำคัญอะไร หากมีต้นทุนแฝงจำนวนมากๆ อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทรุนแรง ทำให้ขาดทุนโดยไม่รู้ตัวเลยก็ว่าได้