ก่อนที่จะนำรายได้ต่างๆ มาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่ารายได้เป็นรายได้ประเภทไหน สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เท่าไหร่ มีค่าลดหย่อนอะไรบ้าง
อันดับแรกมาดูที่ ประเภทเงินได้ก่อน
- 1.เงินเดือน มาตรา 40 (1) การหักค่าใช้จ่าย หักเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- 2.รับจ้างทั่วไป รับงานอิสระ มาตรา 40 (2) การหักค่าใช้จ่าย หักเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- 3.ขายสินค้า มาตรา 40 (8) การหักค่าใช้จ่าย หักเหมา 60% หรือหักตามจริง (ต้องมีเอกสารหลักฐาน)
นอกจากนี้ในส่วนของรายได้ที่เข้าร่วมโครงการรัฐ เช่น เราชนะ คนละครึ่ง ม.33 เรารักกัน เป็นรายได้ที่ต้องนำมายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
- 1.เงินที่ได้จากลูกค้าผ่านโครงการรัฐ
- 2.เงินสนับสนุนที่ได้จากรัฐ
- 3.เงินที่ได้มาจากยอดขายอื่นๆ
ต่อมาเป็น เกณฑ์การเสียภาษี
- คนโสด รายได้เกิน 60,000 บาทต่อปี ต้องเสียภาษี
- มีคู่สมรสรายได้รวมกัน 120,000 บาทต่อปี ต้องเสียภาษี
วิธีการคำนวณ
- วิธีปกติ = รายได้สุทธิ (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน) x อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- หากมีรายได้มากกว่า 120,000 บาทต่อปี (ไม่รวมเงินเดือน) ใช้สูตรคำนวณ = รายได้สุทธิ x 0.5% แล้วเปรียบเทียบกับวิธีคำนวณตามปกติ หากวิธีนี้มีภาษีเกิน 5,000 บาทให้เสียภาษีตามวิธีที่สูงกว่า (หากไม่เกิน 5,000 บาทให้เสียภาษีตามวิธีการคำนวณปกติ)
กำหนดเวลายื่นแบบ
- ภาษีครึ่งปี ภ.ง.ด.94 กำหนดยื่นตั้งแต่ 1 ก.ค.-3. ก.ย. ของปีนั้นๆ โดยนำเงินได้ที่ไม่ใช้เงินได้
- มาตรา 40 (1) (2) ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. ของปีนั้นมารวมคำนวณภาษี
- ภาษีประจำปี ภ.ง.ด.90 กำหนดยื่นตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. ของปีถัดไปโดยนำเงินได้ทุกประเภท ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค. ของปีนั้น มารวมคำนวณภาษีและนำภาษีที่ชำระตาม ภ.ง.ด.94 มาเครดิตภาษีได้
อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต่างๆ หรือผู้ที่มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการเกินปีละ 1.8 ล้านบาทต้องยื่นขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีรายได้ถึงเกณฑ์กับทางกรมสรรพากร โดยผู้ที่ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เมื่อขายสินค้า/บริการ จะต้องออกใบกำกับภาษีและเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากลูกค้าเพื่อนำส่งสรรพากร และต้องจัดทำรายงานภาษีขาย รายงานภาษีซื้อ และยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
CR. :
https://www.pptvhd36.com/