อยากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีต้องทำอย่างไร

อยากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีต้องทำอย่างไร



ในปัจจุบันสายงานตรวจสอบบัญชีได้รับความนิยมจากผู้ที่จบการศึกษาด้านการบัญชีและเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากกฎหมายระบุว่าให้งบการเงินของทุกบริษัทจะต้องผ่านการรับรองจากผู้ตรวจสอบบัญชีหรือ Certified Public Accountant (CPA) ซึ่งผู้ตรวจสอบบัญชีจะเป็นบุคคลภายนอกซึ่งเข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบงบการเงินของบริษัท และแสดงความเห็นต่องบการเงินว่าเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่กำหนดไว้หรือไม่ เพื่อที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่จะนำงบการเงินไปใช้ว่างบการเงินมีความถูกต้องและเที่ยงธรรม โดยก่อนที่จะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีได้นั้นจะต้องผ่านกระบวนการฝึกหัดงานรวมไปถึงผ่านการทดสอบการหลายวิชา   

ซึ่งในปัจจุบันสภาวิชาชีพบัญชีกำหนดให้มีการทดสอบจำนวน 6 วิชา ได้แก่ วิชาบัญชี1 วิชาบัญชี 2 วิชาสอบบัญชี 1 วิชาสอบบัญชี 2 วิชากฎหมาย วิชากฎหมายภาษี  นอกจากจะต้องสอบผ่านทั้งหมดทั้ง 6 วิชาแล้ว ผู้ที่ต้องการเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตยังต้องเข้ารับการฝึกหัดงานด้านการสอบบัญชีจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต โดยต้องมีระยะเวลาการฝึกงานไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีชั่วโมงในการทำงานเกินกว่า 3,000 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องถึงจะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีได้ โดยผู้ที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีนั้นจะต้องทำการยื่นเอกสารแจ้งการฝึกหัดงานกับทางสภาวิชาชีพบัญชี โดยการสอบ CPA นั่นถือเป็นการสอบเพื่อที่จะได้รับใบอนุญาตในการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี นอกจากนี้ CPA ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวผู้ตรวจสอบเองว่า มีความรู้ความสามารถทางบัญชีเป็นอย่างดี เนื่องจากต้องผ่านการทดสอบที่ค่อนข้างยากถึง 6 วิชา ประกอบกับการต้องฝึกงานมากกว่า 3,000 ชั่วโมง อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มความเจริญก้าวหน้าในสายงานด้านบัญชีอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากคุณสมบัติด้านวิชาการที่ยอดเยี่ยมแล้ว การจะเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีที่ดีได้นั้นจะต้องคงไว้ซึ่งจรรยาบรรณและการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง

เลือกซื้อ Software บัญชี สำหรับสำนักงานบัญชี Click


บทความโดย : http://www.accvenue.com/
 1715
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เงินปันผล (dividend) เป็นค่าตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งมักเป็นการกระจายกำไร เมื่อบริษัทได้กำไรหรือส่วนเกิน บริษัทสามารถนำไปลงทุนในธุรกิจต่อ (เรียก กำไรสะสม) หรือสามารถจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นก็ได้ บริษัทอาจสงวนกำไรหรือส่วนเกินส่วนหนึ่ง
แม้ ภ.ง.ด.1 และ ภ.ง.ด.1ก จะมีหน้าที่บอกกรมสรรพากรว่าบริษัทมีพนักงานกี่คนแต่ละคนได้เงินเดือนเท่าไหร่และเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปเท่าไหร่แต่ก็มีความแตกต่างในการกรอกรายละเอียดและช่วงเวลาในการนำส่ง กล่าวคือ
นักบัญชีเป็นวิชาชีพเฉพาะทางที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจแบบแยกออกจากกันไม่ได้ ธุรกิจที่เป็นนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเป็นต้องมี “ผู้ทำบัญชี”ที่รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีของธุรกิจ เพื่อให้มีการแสดงผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของธุรกิจที่เป็นอยู่ตามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการบัญชี พระราชบัญญัติการบัญชีจึงได้มีการกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ทำบัญชีไว้ชัดเจน โดยมีการแบ่งแยกหน้าที่และความรับผิดชอบกับผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี และผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหรือธุรกิจ ต้องจัดให้มีผู้ทำบัญชีซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกำหนด ดังนี้
ธุรกิจนิติบุคคลหรือการดำเนินธุรกิจที่มีเจ้าของกิจการอยู่รวมกันมากกว่า หนึ่งคนขึ้นไปนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปลักษณะของบริษัททั่วไปทั้งธรรมดาและมหาชน ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิจการร่วมค้า มูลนิธิหรือสมาคม ฯลฯ ที่ได้ไปทำการขึ้นจดทะเบียนไว้เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายกับทางหน่วยงานราชการ
“ที่ปรึกษาด้านบัญชีและภาษี” คือ ผู้ที่มีหน้าที่วางแผนและให้คำปรึกษาทางด้านบัญชีการเงินและกฎหมายภาษีให้กับองค์กร ทั้งกฎหมายภาษีตามประมวลรัษฎากรและการยื่นภาษีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อลดความเสี่ยงทางภาษีในการถูกประเมินเบี้ยปรับและเงินเพิ่มหรือเพื่อการประหยัดภาษีของธุรกิจ
อยากวางแผนภาษีของกิจการให้ดี แต่ไม่รู้เลยว่าเจ้าหน้าที่สรรพากรจะรับรู้รายได้ที่เรามีได้อย่างไร คุณกำลังเป็นแบบนี้อยู่ใช่มั้ย?

สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์